top of page
บล็อก: Blog2
ค้นหา

"Raku" คืออะไร? 楽焼って何?

  • รูปภาพนักเขียน: Hymn Sopitarchasak
    Hymn Sopitarchasak
  • 9 เม.ย. 2562
  • ยาว 1 นาที

สวัสดีครับ แฮร่ ผมขอประเดิมโพสท์แรกกันด้วยสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงเป็นอย่างแรก ๆ (รึเปล่า?) เวลาพูดถึงเครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่นละกัน


นั่นก็คือ “ระคุยากิ” นั่นเอง ฟังชื่ออาจจะคล้าย ๆ กับอาหาร พวกทาโกะยากิ ไทยากิ หรือ โอโคโนมิยากิ (พูดไปแล้วก็หิว...) แต่ไม่ใช่ครับ ระคุยากิ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Raku ware (楽焼) นั้นหมายถึงเครื่องปั้นดินเผาประเภทหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นครับ

ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้ดูรูปก่อน รูปที่ผมเอามานี้เป็นรูปของถ้วยชาระคุยากิชิ้นแรก ๆ ที่เกิดขึ้น เห็นแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ?

มันดูบิด ๆ เบี้ยว ๆ ไม่มีความสมมาตร ตะปุ่มตะป่ำใช่มั้ยล่ะครับ? บางคนอาจจะมองว่ามันเหมือนของที่ทำมาพลาด หรือไม่ก็ยังไม่สมบูรณ์

แต่ผมจะบอกว่านั่นล่ะครับคือหัวใจของระคุยากิเลยล่ะ

ต้นกำเนิดของระคุยากินั้นย้อนกลับไปได้ถึงประมาณช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ยุคนั้นเป็นยุคของสงครามครับ เป็นยุคแห่งการฟาดฟันกันระหว่างเจ้าแคว้นต่าง ๆ ในญี่ปุ่นที่แก่งแย่งอำนาจกันโดยที่จักรพรรดิและโชกุนได้หมดอำนาจในทางปฏิบัติไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นยุคที่งานน้ำชาเป็นที่นิยมและแพร่หลายมาก แล้วยิ่งถ้าเป็นงานน้ำชาสำหรับพวกซามูไรและขุนนางต่าง ๆ ก็มักจะเต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการชงชาราคาแพงที่นำเข้ามาจากจีน ทั้งอุปกรณ์ในการชง ถ้วยชา กาน้ำร้อน ฯลฯ


และก็เหมือนกับทุกเรื่องน่ะแหละครับ พออะไรที่มันฮิตมาก ๆ ก็ต้องมีคนแอนตี้ (แล้วพอคนแอนตี้มีมากขึ้นก็ต้องมีคนแอนตี้การแอนตี้... เอ๊ะ ยังไง 55)

กระแสของการใช้อุปกรณ์แพง ๆ ในการชงชา รวมถึงการจัดงานในบ้านหลังใหญ่โตของพวกซามูไร ก็เลยทำให้มีคนบางกลุ่มเกิดแนวคิดในการจัดงานน้ำชาที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบการชงชาแบบเดิม ๆ ขึ้นมา นั่นก็คือแนวคิดของ “วาบิชา” ที่เน้นความสมถะ เรียบ ๆ พูดให้ง่ายคือรูปแบบของพิธีชงชาแบบที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ในละครหรือการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นล่ะครับ


หนึ่งในคนสำคัญที่ทำให้เกิด “วาบิชา” ขึ้นก็คือ “เซ็นโนะริคิว” หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่า “ริคิว” นะครับ (แต่ตอนนั้นยังไม่มีการเรียกว่า “วาบิชา” นะครับ วาบิชาเป็นศัพท์ที่เกิดขึ้นภายหลังยุคของริคิว)

ริคิวพื้นเพเป็นพ่อค้าแล้วก็เป็นนักชงชาด้วย ริคิวไม่ชอบกระแสการใช้ของหรูหราราคาแพงจากจีนในการชงชา ริคิวเลยเลือกใช้ของที่ผลิตในญี่ปุ่นเป็นหลัก หรือใช้ของที่มีตำหนิบ้าง


มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (ขุนพลคนสำคัญของยุค ซึ่งสนิทกับริคิวมาก) จะสร้างวัง (วังจูระคุได) ริคิวก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการก่อสร้างด้วย ทีนี้พอมันมีการขุดดินในบริเวณที่จะสร้างวัง ริคิวก็ให้ช่างทำกระเบื้องประจำตระกูลไปเอาดินที่ขุดขึ้นมานั้นมาทำเป็นถ้วยชา โดยรีเควสท์ไปว่าไม่ให้ใช้แป้นหมุน แต่ให้ใช้มือทำ ผลที่ได้ก็เลยออกมาเป็นถ้วยชาที่ไม่กลมหรือสมมาตรเหมือนกับถ้วยชาที่ใช้แป้นหมุน และไอ้เจ้าความไม่สมมาตร ไม่สมบูรณ์ที่ว่านี้ล่ะครับที่มันตรงกับแนวคิดของวาบิชามาก


พอริคิวเอาถ้วยชานี้ไปให้กับฮิเดโยชิ ฮิเดโยชิก็ชอบมาก และได้ให้ตราประทับที่เขียนว่า “ระคุ” แก่ช่างทำกระเบื้องที่ทำถ้วยชานี้ แล้วหลังจากนั้นช่างทำกระเบื้องคนนั้นก็ได้ใช้นามสกุล “ระคุ” (ชื่อเต็ม ๆ คือ ระคุ โจจิโร่) และการทำถ้วยชาแบบนี้ก็เลยถูกเรียกว่า “ระคุยากิ” (ยากิแปลว่าเผา) มาตั้งแต่บัดนั้นครับ

ป.ล. แต่นอกจากเรื่องความไม่สมมาตรแล้ว ระคุยากิ ยังมีรายละเอียดทางเทคนิคในเรื่องของการเผาและการผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ นะครับ แต่โพสท์นี้ยาวมากละ ไว้ค่อยมาต่ออีกทีวันหลังดีกว่า

 
 
 

Comments


©2019 by Tojiki เรื่องเล่าเครื่องปั้นดินเผา. Proudly created with Wix.com

bottom of page